ไวรัส ‘hMPV’ หรือเชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจโดยเป็นเชื้อที่จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับโรค RSV ไวรัสที่ควรระวังในช่วงหน้าฝน คือกลุ่มพารามิกโซไวรัส ซึ่งถูกค้นพบมานานกว่า 20 ปีแล้ว
การติดเชื้อ hMPV สามารถเกิดได้ในทุกช่วงอายุ แต่พบบ่อยในเด็กเล็กที่อายุน้อยกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุ โดยมักจะเกิดการระบาดมากในช่วงปลายฤดูฝนถึงต้นฤดูหนาว คือตั้งแต่ช่วงต้นเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม ซึ่งคล้ายคลึงกับการระบาดของเชื้อ RSV และบางครั้งอาจพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสได้ มากกว่า 2 ชนิด ถึงประมาณร้อยละ 10-20
ไวรัส hMPV แตกต่างจาก ไวรัส RSV อย่างไร?
เชื้อไวรัสทั้ง 2 ชนิดนี้ จะมีความแตกต่างกันในลักษณะทางโครงสร้างของเชื้อ จึงทำให้แยกกลุ่มออกจากกันชัดเจน แต่อาการของโรคจากเชื้อไวรัส hMPV จะมีอาการคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ และ RSV แต่อาการรุนแรงน้อยกว่า ลักษณะการระบาดก็คล้ายคลึงกัน คือ พบมากในช่วยปลายฤดูฝนต่อฤดูหนาว
hMPV ทำให้ปอดลูกน้อยอักเสบได้อย่างไร
เมื่อเชื้อไวรัส hMPV ผ่านเข้าร่างกายไปในระบบทางระบบทางหายใจ เชื้อไวรัสจะเพิ่มจำนวนในเซลล์ทางเดินหายใจ ส่งผลทำให้เกิดการอักเสบทำลายเนื้อเยื่อทางเดินหายใจ จนเกิดอาการผิดปกติและรุนแรงจนปอดอักเสบหรือหลอดลมฝอยอักเสบได้ นอกจากนี้เชื้อไวรัส hMPV อาจจะทำให้เกิดการกระตุ้นของหลอดลม ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคล้ายกับในโรคหอบหืดที่พบได้หลังจากกการติดเชื้อ RSV เกิดภาวะหลอดลมไวในเด็กได้เช่นกันค่ะ
กลุ่มที่อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะ ‘ปอดอักเสบ’ คือ เด็กเล็ก อายุน้อยกว่า 5 ปี, ผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป, ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคปอด หรือเบาหวาน หรือ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วยโรคมะเร็ง หรือ HIV
สาเหตุการติดเชื้อไวรัส hMPV ในเด็ก
เกิดจากการแพร่ระบาดจากคนที่ติดเชื้อไปยังคน อื่น ๆ ผ่านทาง…
- สารคัดหลั่งที่ติดต่อผ่านการไอหรือจาม
- ผ่านการสัมผัสระหว่างบุคคล เช่น การจับมือ , การสัมผัสกับวัตถุ หรือพื้นผิวที่มีเชื้อไวรัสแล้วเจ้าตัวน้อยใช้มือมาสัมผัสที่ปาก แคะจมูก หรือขยี้ตา
- สูดเอาเชื้อโรคที่ลอยอยู่ในอากาศเข้าไป
การสังเกตอาการเมื่อลูกติดเชื้อไวรัส hMPV
การติดเชื้อ hMPV ในเด็กโตที่มีภูมิต้านทานแข็งแรง มักมีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา หรือไม่มีอาการก็ได้ แต่ในเด็กเล็กที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ อาจทำให้เกิดปอดอักเสบรุนแรงได้ เมื่อลูกร้อยติดเชื้อไวรัส hMPV มักมีอาการของระบบทางเดินหายใจ คล้ายกับไข้หวัดใหญ่ โดยเริ่มต้นจากอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ อาการที่พบได้มีทั้งอาการติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบน เช่น อาการคล้ายไข้หวัด มีไข้ ไอ มีน้ำมูกและเสมหะ เจ็บคอ และการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น มีอาการปอดบวม ปอดอักเสบ โดยอาจสังเกตอาการได้จากการที่มี ไข้ ไอ หายใจเร็ว หอบเหนื่อย หายใจลำบาก หน้าอกบุ๋ม มีเสียงหายใจวี๊ด (wheeze) และลูกน้อยอาจร้องกวน งอแง กระสับกระส่าย ไม่กินนม
โดยทั่วไปแล้วเด็กที่ติดเชื้อ hMPV จะมีอาการป่วยประมาณ 5-7 วัน แล้วอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเอง แต่ถ้าหากลูกน้อยมีอาการรุนแรงอาจต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากโรคนี้ยังไม่มียาต้านไวรัส แนวทางการรักษาจะเป็นการรักษาแบบประคับประคอง เช่น ให้ยาลดไข้ ยาบรรเทาอาการ และให้ออกซิเจนหากหายใจลำบาก ในบางกรณีอาจต้องพ่นยา ดูดเสมหะ เคาะปอด หรือให้สารน้ำทางหลอดเลือด
ปกป้องลูกน้อยจาก hMPV ด้วยวิธีง่ายๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้
ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ hMPV คุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันไวรัสนี้ให้ลูกน้อยได้โดยเน้นที่สุขอนามัยส่วนบุคคล ได้แก่…
-
หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีคนเยอะ หรือสถานที่แออัด
-
สวมใส่หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะเมื่อต้องพาลูกไปในสถานที่สาธารณะ
-
หมั่นให้ลูกล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด จะช่วยลดการแพร่กระจายของโรคได้ในระดับหนึ่ง
-
พยายามไม่ให้ลูกน้อยเอามือไปแคะจมูกหรือเอานิ้วมือเข้าปาก
-
การแยกผู้ป่วย และการหลีกเลี่ยงไม่ไปสัมผัส รักษาระยะห่าง จากผู้ที่มีอาการป่วย
-
ทำความสะอาดพื้นผิวที่สัมผัสเป็นประจำ เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อทางเดินหายใจ
ขอบคุณข้อมูลจากคุณหมอแอน พญ.ปิยะรัตน์ เลิศบรรณพงษ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
วันที่สร้าง 27/08/2025