ว่าที่คุณแม่มือใหม่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงเวลาที่ตื่นเต้นที่สุดคือ เดือนสุดท้ายก่อนคลอด หรืออายุครรภ์ประมาณ 40 สัปดาห์
ในระยะนี้ คุณแม่ควรเฝ้าสังเกตุและเตรียมความพร้อมที่จะไปโรงพยาบาลได้ทันท่วงทีในกรณีที่มีสัญญาณบ่งบอกว่ากำลังจะคลอดแล้ว ดังนี้ค่ะ
- อาการเจ็บคลอด ยอดมดลูกซึ่งอยู่เหนือสะดือ จะปั้นขึ้นมาเป็นก้อน พร้อมกับมีอาการปวดหน่วงคล้ายจะมีประจำเดือนมา นานประมาณ 30-60 วินาที และมีการแข็งตัวสม่ำเสมอทุก 10 นาทีหรือน้อยกว่านั้น
- มีภาวะน้ำเดิน โดยอาจมีปวดท้องหรือไม่ก็ได้ ซึ่งลักษณะเป็นน้ำออกมาสีคล้ายน้ำปัสสาวะมีปริมาณมาก ทั้งที่ไม่ได้ปัสสาวะ ในระยะนี้ แนะนำให้ฝึกการหายใจด้วยการ สูดลมหายใจลึกๆเข้าทางจมูก และหายใจออกพร้อมเป่าลมออกทางปากให้มากที่สุด และบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานด้วยการขมิบที่อุ้งเชิงกราน ซึ่งจะช่วยทำให้การคลอดง่ายขึ้นค่ะ
การดูแลลูกน้อยระยะหลังคลอด
เมื่อผ่านนาทีที่สำคัญที่สุดคือการคลอดแล้ว ไม่ว่าคุณแม่จะคลอดธรรมชาติหรือผ่าตัดคลอด จากข้อมูลทางวิชาการพบว่าในช่วงหลังคลอด คุณแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคุณแม่ครรภ์แรกค่ะ จนบางครั้ง อาจทำให้คุณแม่เกิดความกังวล วันนี้หมอรวบรวมวิธีการรับมือกับบทบาทคุณแม่มือใหม่ ในเรื่องของการดูแลลูกน้อยมาแชร์กันค่ะ
>> การเลือกซื้อผ้าอ้อมสำหรับเด็กแรกเกิด คุณแม่มือใหม่คงปฏิเสธไม่ได้ในช่วงแรกคงสับสนว่าจะเลือกซื้อผ้าอ้อมแบบไหนเตรียมให้ลูกก่อนคลอด หรือหลังคลอด เพราะผ้าอ้อมสำเร็จรูปมีความสำคัญและจำเป็นสำหรับคุณแม่และลูกน้อยมากๆ เหมือนมีผู้ช่วยให้การเป็นคุณแม่มือใหม่ง่ายขึ้น วันนี้หมอจึงรวบรวมคุณสมบัติสำคัญๆ ของผ้าอ้อม ที่เหมาะกับเด็กแรกเกิด (0-3เดือน)มาเป็นแนวทางให้คุณแม่ในการเลือกซื้อดังนี้ค่ะ
ผิวเด็กแรกเกิดมีความบอบบาง ควรเลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่มีเนื้อสัมผัสนุ่ม (Baby Soft Touch) ไม่ระคายผิวของลูกน้อย
ผิวเด็กทารกบางกว่าผิวผู้ใหญ่ถึง 5 เท่า ง่ายต่อการแพ้ ดังนั้นผ้าอ้อมที่ใช้ต้องผ่านการทดสอบว่าอ่อนโยนไม่ก่อให้เกิดการแพ้ ( Hypoallergenic)
ควรเลือกใช้ผ้าอ้อมแบบเทป ที่ตัวเทปทำมาจากวัสดุที่อ่อนนุ่ม ( Soft Easy Tape) ป้องกันการเสียดสีกับผิวของลูกน้อย และควรมีขอบเอวเว้าตรงสะดือ (Novel Protection) เพื่อให้ง่ายกับการทำความสะอาดสะดือที่ยังไม่แห้งของเด็กแรกเกิด
มีคุณสมบัติ ซึมซับดี ได้ยาวนานประมาณ 10 ชั่วโมง ที่สำคัญควรมีตัวช่วยกักเก็บและซึมซับของเหลวได้รวดเร็ว เช่น พาวเวอร์เจล (Power gel)
มีขอบขาตั้ง ( Leakage Control) ที่จะช่วยป้องกันการรั่วซึมบริเวณขอบขา ทำให้ลูกน้อยรู้สึกแห้งสบายตลอดการสวมใส่ผ้าอ้อมและได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
มีแถบวัดความเปียกชื้น (Wetness alert) ที่จะช่วยบอกให้ทราบเวลาที่ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้กับลูกแล้ว จึงหมดกังวลเรื่องความอับชื้น
>> การให้นม คุณแม่สามารถให้นมลูกได้ตั้งแต่วันแรกที่คลอด เพื่อให้ลูกได้สัมผัสไออุ่นจากอ้อมกอดของแม่ เสริมให้ลูกน้อยคุ้นชินกับการดื่มน้ำนมจากคุณแม่ ทั้งนี้คุณแม่ควรดื่มน้ำสะอาดวันละ 2 ลิตร รวมถึงการดื่มน้ำขิงและรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นน้ำนม เช่น หัวปลี มะละกอ เต้าหู้ ใบกระเพรา เป็นต้น
>> การเลือกเสื้อผ้า สิ่งที่สำคัญที่คุณแม่ทุกคนคำนึงถึงสำหรับเด็กอ่อนก็คือ ใส่สบายในแต่ล่ะสภาพอากาศ อย่างชุดแขนยาวขายาวก็เหมาะที่จะใส่นอนในห้องแอร์หรือใส่ในหน้าฝนหรือหน้าหนาวที่กลางคืนอากาศเย็น ชุดผ้าป่านแบบป้ายผูกก็จะเหมาะกับเด็กช่วงแรกเกิดถึง 3 เดือนเอาไว้ใส่ในวันที่อากาศร้อน หรือใส่ช่วงกลางวันอยู่ในบ้านเพื่อให้เด็กรู้สึกสบายตัว
>> การอาบน้ำ แนะนำให้อาบน้ำทารกแรกเกิดสัปดาห์ละ 2 ถึง 3 ครั้ง และเพิ่มจำนวนครั้งมากขึ้นเมื่อทารกเติบโต ในกรณีที่แม่ไม่ได้อาบน้ำให้ลุกทุกวัน แนะนำการลูบตัวด้วยน้ำก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่คุณแม่หลายคนเลือกปฏิบัติให้กับทารกที่ยังมีอายุน้อยมากๆค่ะ ทั้งนี้น้ำอาบของทารกควรมีอุณหภูมิระหว่าง 32 ถึง 37 องศาเซลเซียสและควรวัดอุณภูมิก่อนอาบทุกครั้ง เพื่อป้องกันการลวกผิวลูกน้อยค่ะ
พอทราบถึงข้อมูลสำคัญที่ต้องคำนึงในช่วงก่อนคลอดและวิธีการดูแลลูกน้อยหลังคลอดแล้ว น่าจะช่วยให้คุณแม่มือใหม่คลายความกังวลและสามารถวางแผนการดูแลลูกน้อยแล้วใช่ไหมค่ะ และแม้จะมีหลายสิ่งที่เปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์รวมถึงต้องเรียนรู้มากมายกับบทบาทการเป็นคุณแม่มือใหม่ แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับความสุขที่ได้ต้อนรับดวงใจน้อยๆ ที่เข้ามาเติมเต็มความสุข ความอบอุ่นให้กับครอบครัวค่ะ ดังนั้นการเข้าใจและเตรียมพร้อมจะช่วยส่งผลดีต่อการดูแลลูกน้อยให้มีพัฒนาการด้านร่างกายและอารมณ์ได้ฉลาดสมวัยและทำให้การเป็นคุณแม่มือใหม่ง่ายขึ้นแน่นอนค่ะ
พญ.ธิศรา วีรสมัย สูตินรีแพทย์ และหัวหน้าศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย Smart Life Anti-aging Center โรงพยาบาลพญาไท 1
วันที่สร้าง 02/10/2020