คุณแม่ที่ตั้งครรภ์คงสงสัยกันใช่มั้ยครับว่าเวลาตั้งครรภ์คุณหมอจะตรวจอะไรกันนักหนา ทั้งตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ตรวจอัลตราซาวด์ และอื่น ๆ อีกมากมาย และคงสงสัยว่ามันจำเป็นจริง ๆ หรือที่ต้องตรวจมากมายขนาดนี้
คำตอบคือ... จริงครับ
การตั้งครรภ์ทุกครั้งล้วนมีความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่คุณแม่หลาย ๆ คนมีอายุมากขึ้น มีโรคประจำตัวหรือปัญหาสุขภาพมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เป้าหมายหลักของการตรวจคัดกรองทั้งหลายจึงมุ่งเน้นไปที่การหาความเสี่ยงที่จะกระทบกับการตั้งครรภ์และพยายามวางแผนหรือให้การดูแลรักษาก่อนเข้าสู่ระยะคลอด เพื่อให้คุณแม่มีความเสี่ยงในระยะคลอดน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
แล้วคุณหมอตรวจอะไรกันบ้าง ผมจะเล่าให้ฟัง
นอกจากการตรวจความดันโลหิต และการตรวจปัสสาวะเพื่อดูระดับน้ำตาลและโปรตีนหรือไข่ขาว ซึ่งต้องได้รับการตรวจทุกครั้งที่ไปฝากครรภ์แล้วแล้ว หากเราอ้างอิงการตรวจคัดกรองตามรายไตรมาส ก็จะมีการตรวจคัดกรองที่สำคัญ ดังนี้
ไตรมาสแรก (อายุครรภ์ 0-14 สัปดาห์) ประกอบด้วย
- การตรวจเลือดฝากครรภ์ครั้งที่ 1 ได้แก่
- ความเข้มข้นเลือด
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่ การติดเชื้อซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบชนิด บี และ เอช ไอ วี
- โรคหรือพาหะโรคธาลัสซีเมีย
- ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (เฉพาะกลุ่มเสี่ยง)
- การตรวจพิเศษอื่น ๆ ได้แก่
- การตรวจอัลตราซาวด์เพื่อกำหนดอายุครรภ์ (เฉพาะรายที่มีข้อบ่งชี้)
- การตรวจคัดกรองทารกดาวน์ ไตรมาสที่ 1
ไตรมาสที่สอง (อายุครรภ์ 14-28 สัปดาห์) ประกอบด้วย
- การตรวจเลือด ได้แก่
- ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (เฉพาะกลุ่มเสี่ยง) ครั้งที่ 2
- การตรวจพิเศษอื่น ๆ ได้แก่
- การตรวจอัลตราซาวด์เพื่อดูโครงสร้างของทารกในครรภ์
- การตรวจคัดกรองทารกดาวน์ ไตรมาสที่ 2 ในกรณีที่ไม่สามารถตรวจในไตรมาสแรกได้
- การวินิจฉัยทารกในครรภ์ (กรณีมีข้อบ่งชี้) เช่น การเจาะน้ำคร่ำในคุณแม่ที่มีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ทารกดาวน์ หรือ ในคุณแม่ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี
- การตรวจความยาวปากมดลูก เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด
ไตรมาสที่สาม (อายุครรภ์ 28-40 สัปดาห์) ประกอบด้วย
- การตรวจเลือดฝากครรภ์ ครั้งที่ 2 ได้แก่
- ความเข้มข้นเลือด
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่ การติดเชื้อซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบชนิด บี และ เอช ไอ วี
- การตรวจพิเศษอื่น ๆ ได้แก่
- การตรวจอัลตราซาวด์เพื่อประเมินการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ (เฉพาะรายที่มีข้อบ่งชี้)
แม้จะมีการตรวจคัดกรองมากมายอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ในขณะคลอดก็ยังคงมีอยู่ เช่น การเกิดครรภ์เป็นพิษ ภาวะตกเลือดหลังคลอด หรือแม้แต่การคลอดก่อนกำหนด เป็นต้น และคุณหมอทุกท่านก็ล้วนเตรียมพร้อมสำหรับความเสี่ยงดังกล่าวเพื่อเป้าหมายเดียวกันคือ “ลูกเกิดรอด แม่ปลอดภัย”
ถึงตอนนี้คุณแม่หลาย ๆ ท่านคงจะนึกภาพออกแล้วนะครับว่าจะเกิดความเสี่ยงมากมายเพียงใด หากคุณแม่ไม่ได้รับการตรวจคัดกรองใด ๆ เลยเมื่อตั้งครรภ์ ดังนั้นลองถามคุณหมอดูนะครับว่ามีการตรวจใดบ้างที่แนะนำให้ทำเพื่อลดความเสี่ยงลงให้ได้มากที่สุด...
ขอบคุณบทความจาก ผศ. นพ.ตรีภพ เลิศบรรณพงษ์ สูตินรีแพทย์
วันที่สร้าง 31/10/2017