การสังเกตสีอุจจาระของลูกถือเป็น “สิ่งเล็กน้อยที่ยิ่งใหญ่” ที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำเพื่อการดูแลสุขภาพลูกน้อยในแต่ละวันค่ะ
ในช่วงขวบปีแรกนั้นสีอุจจาระเด็กถือเป็นดรรชนีชี้วัดที่สำคัญที่ช่วยบ่งชี้สุขภาพลูกน้อย โดยเฉพาะทารกแรกเกิดที่มีกิจกรรมหลักคือ กินนม นอนหลับ และขับถ่าย ช่วงวัยนี้ลูกน้อยจะอึค่อนข้างถี่เป็นพิเศษ บางช่วงอาจมากถึง 10-20 ครั้งต่อวัน นั่นหมายถึงงานหลักของคุณพ่อคุณแม่ก็คือการรับมือกับกองทัพอึและการเปลี่ยนผ้าอ้อมกันจนเป็นมืออาชีพ ข้อดีของคุณแม่ยุคใหม่คือ นวัตกรรมการใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่นอกจากจะสร้างความสะดวกสบายในการเปลี่ยนผ้าอ้อมและทำความสะอาดก้นแล้ว ยังเป็นที่เก็บหลักฐานเพื่อการพิสูจน์ว่าอึลูกมีสุขภาพดีหรือไม่
สีอึแบบนี้ไม่น่ามีปัญหา
- อึสีเขียวเข้ม/เทาเข้ม/ดำ หรือที่คนไทยเราเรียกกันว่า “ขี้เทา” ด้วยสีที่เข้มและลักษณะค่อนข้างเหนียวข้น ซึ่งถือเรื่องปกติของทารกแรกเกิดในช่วง 1-3 วันแรก เพราะเป็นของเสียตามธรรมชาติซึ่งเกิดจากการที่ลูกดูดกลืนน้ำดี และสารที่อยู่ในสำไส้ภายในครรภ์ของแม่นั่นเอง
- อึสีเหลืองฟักทอง เมื่อผ่านพ้นช่วงขี้เทา และทารกได้ดื่มนมอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะทารกที่ดื่มนมแม่ อึจะมีสีเหลือง มีลักษณะเหลว อึบ่อยครั้ง ซึ่งถือเป็นมาตรฐานของเด็กแรกเกิดทั่วไป ส่วนทารกที่ดื่มนมผสมลักษณะของอึจะค่อนข้างเป็นก้อนไม่ค่อยเหลวมากค่ะ
- อึสีเขียว หรือเหลืองปนเขียว เห็นสีแบบนี้คุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งตกใจ ให้ตรวจเช็คอาหารของคุณแม่และคุณลูกก่อน เช่น อาจเกิดจากการที่คุณแม่รับประทานผักใบเขียวมากเป็นพิเศษซึ่งส่งต่อไปยังลูกผ่านน้ำนมแม่นั่นเอง กรณีเช่นนี้ถือว่าปกติค่ะ
สีอึแบบนี้ไม่น่าไว้ใจ
- อึมีสีแดง/มีเลือดปน ถ้าสังเกตเห็นสีแดงๆ ลักษณะเหมือนเลือดเจือปนอยู่ในอึของลูก คุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ ให้รีบสังเกตและค้นหาสาเหตุทันที เช่น อาจเกิดจากกรณีท้องผูกทำให้อึแข็งจนทำให้เกิดแผลบริเวณรูทวารหนัก หรือการที่มีเลือดปนมากับอึนั้นอาจมีสาเหตุมาจากแผลในลำไส้ก็เป็นได้ หากลูกน้อยมีอาการร้องไห้โยเย ปวดท้อง หรือมีไข้ร่วมด้วย ควรพาไปพบแพทย์ทันทีค่ะ
- อึสีขาว/ซีด อึสีขาวอาจดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหาสาเหตุ เพราะอึสีขาวเช่นนี้อาจเกิดจากกรณีความผิดปกติของท่อน้ำดีก็เป็นได้ค่ะ ควรพาไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาอย่างเหมาะสมค่ะ
- อึสีดำ กรณีที่อึของลูกมีสีดำ ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นคือ ให้ตรวจสอบอาหารที่แม่รับประทานเข้าไปก่อนค่ะ เช่น อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง หรือวิตามินเสริมธาตุเหล็ก ซึ่งจะส่งผลให้อึมีสีดำเข้ม หรืออาจเป็นกรณีของการมีเลือดออกในอวัยวะภายในก็เป็นได้
นอกจากเรื่องของสีอุจจาระ สิ่งที่ควรพิจารณาประกอบด้วยก็เป็นเรื่องของความถี่ในการ ขับถ่าย ลักษณะของอุจจาระ (ข้น,เหลว,ใส,แข็ง, มูก) สิ่งที่เจือปนมากับอุจจาระ รวมทั้งต้องคำนึงถึงปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ประกอบกัน เช่น อาหารที่คุณแม่รับประทาน (ซึ่งจะส่งผ่านไปยังน้ำนม) อาหารที่ลูกรับประทาน ช่วงวัยของลูก พัฒนาการของลูก อาการทางร่างกายอื่นๆ เช่น งอแง มีไข้ ปวดท้อง ร่วมด้วยหรือไม่ รวมทั้งต้องมีการสังเกตอย่างต่อเนื่องค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.unitypoint.org
วันที่สร้าง 28/12/2016