สำหรับคนทุกเพศทุกวัย การนอนหลับคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด เพราะขณะนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้ฟื้นฟูและชาร์จพลังเพื่อรับวันใหม่ได้อย่างเต็มที่ แต่สำหรับเด็กเล็ก การนอนหลับไม่เพียงแต่เป็นการพักผ่อนเหมือนผู้ใหญ่เท่านั้นนะคะ การนอนของลูกยังเป็นช่วงเวลาสำคัญของการเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองอีกด้วย
จริงอยู่ที่ในช่วงแรกเกิดจนถึง 3 เดือนแรก ลูกน้อยมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่กับการนอนถึง 16-18 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้มีเวลาตื่นเพื่อสำรวจสิ่งต่างๆ รอบตัวค่อนข้างจำกัด แต่ช่วงเวลานี้ กลับเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ลูกน้อยมีพัฒนาการเรียนรู้อย่างรวดเร็ว เพราะการพัฒนาสมองของทารกไม่เคยหยุดนิ่ง สมองทารกสามารถนำประสบการณ์ที่ได้รับการเรียนรู้ในเวลาตื่นมาประมวลผลเป็นความจำในเวลานอน
การที่สมองทำงานตอนหลับนี้ ได้รับการยืนยันจากงานวิจัยในต่างประเทศที่ค้นพบแล้วว่า คลื่นสมองของเจ้าตัวน้อยขณะตื่นนอนและยามหลับมีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก โดยสมองของเด็กจะตื่นตัวและพร้อมเรียนรู้ตลอดเวลาแม้ยามหลับ นอกจากนี้ ยังมีอีกผลการวิจัยในเด็กเล็ก พบว่าการนอนหลับของเด็กจะมี 2 ช่วง คือ “ช่วงหลับธรรมดา” ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายลูกจะสร้างฮอร์โมนเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ กระตุ้นการทำงานของร่างกาย และ “ช่วงหลับลึก” ซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตทางสมอง เพราะร่างกายจะสร้างฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นส่วนต่างๆ ของสมองในการเรียนรู้ จดจำ อันเป็นรากฐานของพัฒนาการของสมองที่ดี
ดังนั้นในช่วงที่ลูกนอนหลับ จึงถือเป็นช่วงเวลาที่สมองของลูกเก็บประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ในแต่ละวัน บันทึกไว้เป็นความทรงจำระยะยาว ทำให้เด็กสามารถจดจำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น ขณะเดียวกันเซลล์ประสาทจะมีการเจริญเติบโตเต็มที่ เพื่อเตรียมพร้อมเรียนรู้ในขณะตื่นด้วยค่ะ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การนอนหลับมีความสำคัญอย่างมากต่อเด็กเล็ก ดังนั้น หากลูกนอนไม่เพียงพอก็ย่อมส่งผลเสียมากกว่าการอดนอนในผู้ใหญ่ด้วยค่ะ เพราะนอกจากลูกจะมีอาการหงุดหงิด ร้องไห้โยเย การนอนไม่พอยังส่งผลต่อการเรียนรู้ การจดจำ ไปจนถึงปิดกั้นการสื่อสารระหว่างเซลล์สมองอีกด้วย
แต่เนื่องจากลูกน้อยวัยแรกเกิดจนถึง 6 เดือนแรก มักจะตื่นบ่อย ทุกๆ 20 นาที จนอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่พักผ่อนไม่เพียงพอไปด้วย ดังนั้นเราจึงต้องมีไม้เด็ดเพื่อจัดการกับปัญหาการนอนลูกตื่นบ่อย ซึ่งไม้เด็ดที่ว่านี้ คือการให้ลูกได้กินนมแม่นานขึ้นก่อนนอนนี้เอง ที่จะช่วยให้ลูกน้อยนอนหลับสนิทตลอดคืน เนื่องจากในน้ำนมแม่มี “แอลฟา-แล็คตัลบูมิน” ซึ่งเป็นโปรตีนคุณภาพสูงที่ให้กรดอะมิโนจำเป็น ชื่อ “ทริปโตแฟน” ที่เป็นสารตั้งต้นของสารสื่อประสาท ช่วยในการสื่อสารของเซลล์ประสาทและการทำงานของสมอง ทั้งยังมีส่วนช่วยในควบคุมการนอนหลับ ซึ่งได้มีการศึกษาที่พบด้วยว่า เด็กที่กินนมแม่จะนอนหลับได้ดีกว่านมผสม เนื่องจากนมแม่มีระดับทริปโตเฟนในช่วงกลางคืนสูงกว่าในช่วงกลางวัน ขณะที่เด็กกินนมผสมจะใช้เวลากว่าจะหลับนานกว่า
นอกจากนี้ นมแม่ยังมีอาหารสมองที่จำเป็นต่อลูกน้อยอีกมากไม่ว่าจะเป็นวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารหลัก เช่น คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน การให้ลูกได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่มทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน ควบคู่ไปกับการกินนมแม่เพื่อรับแอลฟา-แล็คตัลบูมินอย่างเพียงพอ จึงถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ลูกรักสุขภาพกายแข็งแรง สมองเติบโตไว ความจำดีนั่นเองค่ะ
เมื่อรู้ว่าสมองกับการนอนมีความเกี่ยวข้องกันขนาดนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่มาช่วยกันทำให้ลูกน้อยได้การนอนหลับอย่างเต็มอิ่ม เพื่อพร้อมสำหรับการเรียนรู้ในเวลาตื่นกันนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.mamymedia.com และ http://www.ncbi.nlm.nih.gov
วันที่สร้าง 28/12/2016