วิธีการดูแลสุขภาพช่องปากลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด

วิธีการดูแลสุขภาพช่องปากลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด วิธีการดูแลสุขภาพช่องปากลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด วิธีการดูแลสุขภาพช่องปากลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด

การดูแลสุขภาพของลูกน้อย นอกจากการดูแลสุขภาพทั่วไปเพื่อให้ลูกน้อยมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงแล้ว การดูแลสุขภาพช่องปากของลูกน้อยก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีตั้งแต่เริ่มต้นจะเป็นพื้นฐานของการมีสุขภาพฟันที่ดีต่อไปในอนาคต การดูแลสุขภาพของปากและฟันของลูกน้อยนั้นคุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มทำให้ได้ตั้งแต่แรกเกิด ก่อนที่ลูกจะมีฟันซี่แรกขึ้นมา โดยมีวิธีการดูแลตามช่วงอายุดังนี้

การดูแลสุขภาพช่องปากของลูกน้อย

  • ช่วงแรกเกิดที่ลูกยังไม่มีฟันขึ้น คุณแม่สามารถทำความสะอาดช่องปากของลูกได้โดยใช้ผ้าสะอาดนุ่มๆ ชุบน้ำสะอาดหรือน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว เช็ดทำความสะอาดโดยถูนวดบริเวณเหงือกของลูกเบาๆ และเช็ดกระพุ้งแก้มและลิ้น อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือตอนเช้า และก่อนนอน เพื่อช่วยในการเช็ดทำความสะอาดคราบน้ำนมภายในช่องปาก การฝึกเช็ดเหงือกและลิ้นให้ลูกตั้งแต่ยังเล็กนี้ เป็นการฝึกให้ลูกคุ้นเคยกับการทำความสะอาดช่องปาก ซึ่งเป็นการปูพื้นฐานที่ดีต่อไปในอนาคตในเรื่องของการแปรงฟัน
  • ช่วงอายุ 6 เดือนเป็นต้นไป ลูกจะเริ่มมีฟันน้ำนมขึ้น คุณแม่สามารถใช้นิ้วพันผ้าถูทำความสะอาดที่บริเวณฟันของลูกให้สะอาดเช่นเดียวกับการทำความสะอาดเหงือก เนื่องจากช่วงนี้ฟันลูกยังเล็กอยู่จึงอาจจะยังใช้แปรงสีฟันไม่ถนัดเท่าใช้ผ้าพันนิ้ว
  • ช่วงอายุ 1-3 ปี ช่วงนี้ฟันลูกมีขนาดใหญ่ขึ้น และเริ่มใช้แปรงสีฟันสำหรับเด็กได้แล้ว คุณแม่ควรเริ่มสอนลูกแปรงฟันด้วยแปรงสีฟันโดยลองแปรงให้ลูกก่อน และฝึกให้ลูกรู้จักการบ้วนน้ำก่อนที่จะให้ลูกแปรงฟันด้วยตัวเอง เลือกเป็นแปรงสีฟันสำหรับเด็กที่มีขนแปรงนุ่มเป็นพิเศษ และเลือกยาสีฟันที่มีรสชาติดี เพื่อสร้างทัศนคติที่ดีต่อการแปรงฟัน
  • ช่วงอายุ 3-4 ปี ลูกเริ่มแปรงฟันเองได้แล้ว แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ยังต้องคอยตรวจเช็คหลังแปรงฟันทุกครั้งว่าลูกแปรงฟันสะอาดทั่วถึงหรือไม่และช่วยแปรงซ้ำให้อีกครั้ง
  • ช่วงอายุ 6 ปีขึ้นไป ลูกจะสามารถแปรงฟันได้เองเป็นอย่างดี และเป็นช่วงที่เริ่มมีฟันแท้ขึ้นแล้ว ฟันน้ำนมอาจจะเริ่มโยกและหลุดไปได้เอง

การสร้างสุขนิสัยเพื่อการมีสุขภาพช่องปากที่ดี

  • เมื่อลูกเริ่มมีฟันขึ้นควรแปรงฟันให้ลูกอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งคือ เช้า และ ก่อนนอน หรือแปรงฟันทุกครั้งหลังทานอาหาร
  • ดื่มน้ำตามหลังการทานนมผงทุกครั้ง เพื่อชะล้างคราบนมอันเป็นบ่อเกิดของเชื้อราในช่องปาก แต่ในกรณีที่ดื่มนมแม่ ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำตามในช่วง 6 เดือนแรก เพราะในนมแม่มีสารตามธรรมชาติที่ช่วยต้านเชื้อราอยู่แล้ว
  • ใช้ยาสีฟันขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว ไม่ควรใช้ยาสีฟันมากจนเกินไป เลือกยาสีฟันสำหรับเด็กที่ไม่มีฟลูออไรด์ เพราะอาจได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปจากการกลืนยาสีฟัน ทำให้ฟันตกกระ หรือเป็นรอยด่างได้
  • ควรหลีกเลี่ยงนมผงที่มีรสหวาน หรืออาหารเสริมที่มีความเหนียวและข้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฟันผุ
  • ไม่ควรหลับคาขวดหรือเต้า เด็กทารกส่วนมากจะหลับได้ง่ายหลังทานนมอิ่ม หรือขณะกำลังทานนม คุณพ่อคุณแม่ส่วนมากจึงมักกล่อมลูกให้หลับด้วยการให้ลูกดื่มนม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาลูกติดดูดขวดนม หรือหลับคาเต้า อันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาฟันผุได้ง่ายเมื่อฟันขึ้น ควรฝึกให้ลูกสามารถหลับได้เองโดยไม่ต้องใช้การดูดนมจากขวดหรือจากเต้ามาช่วย
  • เน้นให้ลูกน้อยทานผัก ผลไม้และเนื้อสัตว์ หลีกเลี่ยงลูกอมขนมหวาน และการดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลมจนติดเป็นนิสัย เพื่อป้องกันสุขภาพช่องปากของลูกน้อย
  • ดื่มน้ำเปล่าให้เป็นนิสัย ฝึกให้ดื่มน้ำเปล่าตามหลังการดื่มนม น้ำผลไม้ หรือหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง โดยฝึกดื่มน้ำจากแก้ว หรือหลอดดูดแทนการดูดน้ำจากขวดนม
  • หมั่นสังเกตฟันของลูกน้อยในทุกๆ ครั้งที่แปรงฟันว่ามีลักษณะขุ่นขาวหรือสีดำหรือไม่ โดยเปิดริมฝีปากดูฟันด้านที่อยู่ติดริมฝีปาก ถ้าพบคราบสกปรกให้เช็ดหรือแปรงออก และหากฟันขุ่นขาวหรือเปลี่ยนเป็นสีดำหรือมีรูผุควรพาลูกน้อยไปพบทันตแพทย์
  • พาลูกน้อยไปพบทันตแพทย์ตั้งแต่เมื่อเริ่มมีฟันซี่แรก เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลรักษาฟันอย่างถูกต้อง และสร้างความคุ้นเคยให้ลูกเข้ารับการตรวจฟัน จากนั้นควรพบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน เพื่อติดตามพัฒนาการต่างๆ ของเหงือกและฟันของลูกน้อย เมื่อถึงอายุที่เหมาะสมคุณหมออาจพิจารณาเคลือบฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุ

          การดูแลสุขภาพเหงือกและฟันถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากในการใช้ชีวิตประจำวัน คุณพ่อคุณแม่จึงควรช่วยกันปลูกฝังความใส่ใจในดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของลูกตั้งแต่แรก จะช่วยให้ลูกน้อยมีสุขภาพฟันที่ดีตลอดไปค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณหมอแอน พญ.ปิยะรัตน์ เลิศบรรณพงษ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ติดตามเราได้ที่ :

Facbook Babylove Youtube Babylove IG Babylove subscribe

บริษัท ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

© 2016 DSG International (Thailand) PLC. All rights reserved.